|
8 ทุ่งดอกทานตะวัน, แม้ไม่มีสายลม แต่ความเหลืองอร่ามของมันก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความคับคั่งจอแจ
|
|
10 อันที่จริงแล้วมันต้องเป็นทิวทัศน์ที่ทำให้รู้สึกร้อนด้วย, แต่ในความเป็นจริงนั้น ตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ผลิอยู่เลย
|
|
12 เย็นสดชื่น, เธอคิดว่า หากสามารถสนุกสนานกับดอกทานตะวันได้อย่างสบายตัวขนาดนี้ล่ะก็,
ปล่อยดอกไม้ไว้อย่างนี้ก็ไม่เลว
|
|
17 ลิริก้า 「ให้ตายสิ, ไม่นึกมาก่อนเลยว่าตอนนั้นพวกพี่จะโผล่ออกมานะ---」
|
|
21 เมแลง 「ก็ออกไปคนเดียวทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ทำนี่นะ
|
|
23 นี่ก็เพราะเป็นห่วงหรอกนะเอ้อ」
|
|
26 ลิริก้า 「แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ช่วยจนถึงตอนท้ายสุดนี่นา---
|
|
28 ปล่อยให้ผู้หญิงจอมเทศน์แบบนั้นมาเจอกับฉันตัวคนเดียวซะได้... ...」
|
|
31 ลูนาซ่า 「แหม, อยากให้ช่วยหรอกเหรอ อุตส่าห์ไปจนถึงที่นั่นด้วยตัวคนเดียว,
แล้วจะให้ช่วยแค่ตอนสุดท้ายมันจะดีเหรอ ?」
|
|
35 ลิริก้า 「อู---」
|
|
38 ลูนาซ่า 「เป็นเพราะไม่รู้สึกว่าคนๆนั้นจะจับลิริก้ากินด้วยล่ะนะ... ...」
|
|
42 เมแลง 「ใช่ใช่, ต้องเป็นคนพิลึกที่ชอบการเทศนาแน่ๆเลยล่ะ」
|
|
45 ลิริก้า 「เพราะเงี้ย, ถึงได้เจ็บตัวจนได้ไงเล่า
|
|
47 อีกอย่าง, ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องถูกเทศน์ด้วย---」
|
|
50 ลูนาซ่า 「อย่าไปทำให้คนๆนั้นโกรธจะดีกว่านะ
|
|
52 ดวงตานั้นคือดวงตาที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง」
|
|
55 เมแลง 「ใช่ใช่, เป็นดวงตาที่ต่อให้โกหกก็จะจับได้ในทันทีเลยล่ะ
|
|
57 ลิริก้าพยายามจะพูดอะไร, ก็รังแต่จะทำให้สถานการณ์มันแย่ลงเปล่าๆ」
|
|
60 ลิริก้า 「ว่าไปแล้วก็รู้สึกกลัวดวงตานั่นอยู่นิดหน่อยล่ะน้า」
|
|
63 ลูนาซ่า 「เอ้า, ได้เวลาเปิดม่านแล้ว」
|
|
67 เมแลง 「วันนี้เป็นการแสดงสดของวิญญาณหลอนที่นำมามอบแก่ทุกท่านในทุ่งดอกทานตะวันค่ะ」
|
|
70 ลิริก้า 「ขอมอบพลังที่ทำให้รู้สึกว่า, ถ้าได้เกิดใหม่ล่ะก็,
|
|
72 คราวนี้แหละต้องรอดให้ได้ !」
|
|
75 ลูนาซ่า 「มาลุยกันให้เต็มที่ในวันนี้และที่นี่กันเถอะ !」
|
|
78 เมแลง 「ก่อนอื่นก็เพลงแรก
|
|
80 『ตากศพรอบสอง』」
|
|
83 ลิริก้า 「บทเพลงสรรเสริญการเวียนว่ายตายเกิดเพลงใหม่, ผลงานของฉันเองค่า---」
|
|
85 ยูวเรย์ในดอกทานตะวัน เมื่อเจอสิ่งนี้เข้าก็ครึกครื้นขึ้นมาจนถึงระดับที่น่าสงสัยว่าใช่ยูวเรย์แน่รึเปล่า
|
|
87 มนุษย์มารวมตัวกันที่ใต้ต้นซากุระ, จากนั้นก็เริ่มเอะอะเสียงดัง
|
|
89 ทว่า, อันที่จริงแล้ว ซากุระเป็นดอกไม้ที่มีความหมายถึงน้ำหนักของบาปและความไร้แก่นสารต่างหาก
|
|
91 ดอกไม้ที่เข้ากับความอึกทึกครึกโครมได้เท่ากับดอกทานตะวันก็ไม่น่าจะมีอีกแล้ว
|
|
93 ในตอนที่เอะอะเสียงดังนี่ล่ะที่จะรู้สึกถึงการคงอยู่ได้ดีที่สุด
|
|
95 วิญญาณหลอนนั้น, อาจดับสูญไปหากไม่ทำตัวให้เอะอะเสียงดังก็เป็นได้
|
|
97 ถ้าอย่างนั้นเหตุผลในการคงอยู่ของวิญญาณหลอนคืออะไรกันแน่นะ
|
|
100 นั่นเป็นสิ่งที่ต้องสอนให้มนุษย์ที่ความรู้สึกช้ารู้ว่า แม้แต่ในสิ่งของก็ยังมีวิญญาณสิงสถิตอยู่
|
|
103 หลักฐานคือดอกทานตะวันตอบสนองต่อการบรรเลงดนตรีของพวกเธอและโยกต้นตามไปด้วย
|
|
105 ดอกทานตะวันเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณที่ร่าเริง, และกำลังฟังการบรรเลงดนตรีของพวกเธออยู่
|
|
107 ไม่เพียงแต่ดอกทานตะวันเท่านั้น, ทั้งสุซุรัน ซากุระ ฮิกันบานะ ล้วนมีวิญญาณสิงสถิตอยู่
|
|
109 ด้วยเหตุนี้, พวกเธอจึงคิดว่าจากนี้ไปจะเดินสายจัดงานแสดงไปทั่วๆ
|
|
111 Congratulations! Ending No.7
|